คลุกคลีกับธุรกิจจิวเวลรี่ บี บิจูซ์ ของมารดา สุวลักษณ์ มหันตคุณ มาตั้งแต่เด็ก ทำให้วันนี้ คุณบอยชาญเกียรติเป็นคนสร้างชื่อให้วงการเครื่องประดับไทยด้วยคอลเลกชั่น พราวลาย ที่ประยุกต์ศิลปะถมทองโบราณเข้ากับงานจิวเวลรี่ชั้นสูง จนคว้ารางวัล PRIME MINISTER’S EXPORT AWARD สาขา DESIGN EXCELLENCE AWARD จากกรมส่งออก และได้รับเชิญจากรัฐบาลญี่ปุ่นไปจัดแสดงในโตเกียว ทำให้หัตถศิลป์ไทย พราวลาย ดังมาก มีสื่อต่างประเทศตามมาทำข่าวหลายราย
พอเห็นกรรมวิธีก็ทึ่งมาก เพราะมีหลายขั้นตอน เริ่มจากนําเนื้อเงินบริสุทธิ์มาขึ้นรูปทรง และเขียนลายลงไป จากนั้นก็สลักลายด้วยค้อนและสิ่ว ย้ำให้เป็นร่องลึก ซึ่งจะทำให้มีรอยนูนหลังแผ่นเงิน พอสลักลายเสร็จก็เคี่ยวน้ำยาถมจนดำวาว เทลง บนรางเท ให้เย็นตัวเป็นแท่ง แล้วนําแท่งถมมาถมลงบนแผ่นเงินที่สลักลายแล้ว โดย ใช้ไฟค่อยๆรม ให้ยาถมละลายกระจายไปตามลวดลายจนทั่ว และตะไปให้ลายเรียบเนียนเสมอกัน จากนั้นก็ ถมทอง โดยนําทองคำบริสุทธิ์มาทำให้เหลวโดยไม่ใช้ความร้อน เรียกว่า เปียกทอง แล้วทาลงบนงาน และผ่านความร้อนสูงเพื่อให้ทองติดเนื้อเงิน โดยทำซ้ำหลายเที่ยวเพื่อให้ทองติดทนนานเป็นร้อยปี สุดท้าย ก็ พราวลาย หรือ เพลาลาย ให้ลวดลายแพรวพราว โดยใช้สิ่วเพลาชิ้นงานให้เป็นริ้วละเอียด จากนั้นก็นําแผ่นถมทองไปประกอบตัวเรือน — เห็นแล้วถึงเข้าใจว่าทำไม คุณสุ และ คุณบอย ถึงไม่วิตกเลยว่า จะถูกเลียนแบบเหมือนเครื่องประดับอื่น ที่วิตกก็คือทำไม่ทัน เพราะคิวยาวมาก แต่ละชิ้นต้องรอกัน 2-5 เดือนขึ้นไป
โสมฉบา
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ