เหล่าเครื่องประดับอันงดงามด้วยการเลือกใช้อัญมณีที่มีรูปทรงสีสันงาม แปลกตา ผสานการออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจจากทั้งตัวชิ้นอัญมณีที่เลือก ประกอบกับความชอบและศิลปะที่อยู่ภายในตัวตนของผู้ออกแบบ เครื่องประดับแต่ละชิ้นของ Bee Bijoux จึงเต็มไปด้วยพลังอีกทั้งรายละเอียดแสนงามที่ไม่เหมือนใคร
สุวลักษณ์ มหันตคุณ อยู่ในแวดวงจิวเวลรี่มากว่า 25 ปี เป็นผู้ก่อตั้งและออกแบบเครื่องประดับของ Bee Bijoux บอกเล่าแรงบันดาลใจในการออกแบบของเธอว่า
“ตัวอัญมณีจะเป็นตัวสร้างแรงบันดาลใจให้ดิฉัน เมื่อมองแล้วเลือกอัญมณี ชิ้นนั้นขึ้นมา จะบอกว่าฉันจะแต่งตัวอย่างไรให้เธอสวยที่สุด แรงบันดาลใจที่สอง มาจาก สิ่งที่ชอบ อย่างดิฉันซอบดอกไม้ ชอบธรรมชาติ ก็หยิบนำมาใช้ นอกจากนั้นก็อาจเป็น เรื่องราวจากประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม สิ่งรอบตัวที่พบเห็นแล้วรู้สึกประทับใจ เพราะฉะนั้นการออกแบบของดิฉันถือเป็นความสุข ที่มีโอกาสได้ถ่ายทอดสิ่งที่ชอบ สิ่งที่ทำ ให้เกิดความสุขลงบนชิ้นงาน”
ดังเช่นคอลเล็กชัน Flowers Of Shanghai ที่สุวลักษณ์และชาญเกียรติ-ลูกชาย ได้ช่วยกันคิดและออกแบบ โดยได้แรงบันดาลใจจากวัฒนธรรมและบรรยากาศของเซี่ยงไอ้ในปี ค.ศ. 1930
“เป็นช่วงยุคโมเดิร์นไชน่าที่จีนเปลี่ยนระบอบการปกครองหลังจักรพรรดิองค์สุดท้าย อิทธิพลตะวันตกเริ่มหลั่งไหลเข้ามาในประเทศจีนมากขึ้น” ชาญเกียรติเล่าถึง บรรยากาศในนครเซี่ยงไฮ้ต่อว่า “คนจากโลกตะวันตกเข้ามาตั้งรกรากในเซี่ยงไฮ้เยอะมาก และนครแห่งนี้ก็เป็นศูนย์กลางทางด้านศิลปะมาตั้งแต่ราชวงศ์ชิงแล้ว มีทั้งโรงเรียนและสถาบันสอนศิลปะ มีพัฒนาการทางด้านนี้สูงมาก ขณะเดียวกันก็ เป็นยุคที่ศิลปะอาร์ตเดโคกำลังมีอิทธิพลทั่วโลก งานที่ออกมาจึงมีความผสมกลมกลืนระหว่างความวิจิตรของจีนและความโก้หรูของอาร์ตเดโค เราจึงนำจุดนี้มาเป็นแรงบันดาลใจและพัฒนาออกมาเป็นคอลเล็กชั่น โดยใช้หยกเป็นนางเอก แล้วใช้อัญมณี อื่นมาประกอบ”
ส่วนการเลือกใช้หยกแต่ละชิ้น แน่นอนว่าต้องไม่ใช่หยกที่มีรูปฺทรงและสีดาษดื่น ทั่วไป สุวลักษณ์เลือกเฉพาะหยกที่มี 2 สีอยู่ในชิ้นเดียวกัน “มีทั้งลีม่วงและสีเขียว ที่ดิฉันดูแล้วเห็นว่าเป็นความน่ารักอ่อนหวานและงามแตกต่างไปจากหยกสีเข้ม ด้วยความที่สีไม่จัดจ้านมากจึงหยิบมาใช้ได้เรื่อยๆ ใส่กับเสื้อผ้าสีอะไรก็จะเกิดความ งามที่เปลี่ยนไปตามสิของเสื้อผ้านั้นๆ”
“เรานำเอากลิ่นอายแฟชั่นของพีเรียดนั้นในเซี่ยงไฮ้มาใช้ในการออกแบบ โดยลักษณะเส้นลายของเราเอง ประกอบกับอัญมณีต่างๆ ให้กลมกลืนกัน”
“เราจะทำขึ้นแบบละ 1 ชิ้นเท่านั้น เพราะอย่างที่บอก ยามที่ดิฉันเลือกวัสดุ จะเลือกชิ้นที่เหมือนเขาคุยและสื่อกับเราได้ แล้วจึงค่อยออกแบบแต่งตัวให้ ฉะนั้น แต่ละชิ้นจึงไม่มีทางเหมือนกัน”
สำหรับผู้อยู่ในแวดวงจิวเวลรี่มานานอย่างเธอ เครื่องประดับเปรียบเหมือน สิ่งที่มาเติมเต็มความรู้สึกและความงามให้กับผู้หญิง “หากจะให้แนะนำเวลาเลือกซื้อเครืองประดับ ก่อนอืนควรดูว่าเครื่องประดับชิ้นนั้นมีสื่อสัมผัสกับเราหรือไม่ เพราะคุณจะเป็นผู้ที่รู้ดีที่สุด”
“ในส่วนการเติมเต็ม การสวมเครื่องประดับเก๋ๆ สักชิ้นหนึ่งในบางวันที่คุณใส่เสื้อผ้าแบบเรียบๆ ก็คือ You Finish The Touch”
“เครื่องประดับยังเป็นตัวบ่งบอกความเป็นคุณได้อย่างชัดเจน และเป็นสิ่งหนึ่งในเครื่องแต่งตัวที่คุณสามารถเก็บและนำมาชื่นชมได้ตลอด โดยเฉพาะหากเป็นชิ้นงานที่ไม่เหมือนใคร…นี่คือเสน่ห์ของเครื่องประตับ”
เรื่อง วิภเวภ
หน้า จิรายุ ดีสาระ
ผม เจมส์ สมเจตน์
ช่างภาพ ฐิระวิชญ์ ล้อเลิศรัตนะ
นิตยสาร Volume