ด้วยความที่หลงรักลายไทยและคลุกคลีกับเครื่องประดับมาตั้งแต่เด็ก ในที่สุด ‘คุณบอยชาญเกียรติ มหันตคุณ’ ก็นำสิ่งที่เขารักกับสิ่งที่คุณเคยมาผสมกันได้อย่างลงตัว กลายเป็น พราวลาย collection ที่นำการถมทอง ศิลปะโบราณของไทยมาประยุกต์กับงานจิวเวลรี่ ซึ่งไม่เพียงแต่จะได้รับรางวัล Prime Minister’s Export Award หรือ PM Award จากกรมส่งเสริมการส่งออก ในสาขา Design Excellence Award สินค้าที่มีการออกแบบดี แต่คอลเลกชั่นนี้ยังขายดีจนไม่เหลือพอมาวางโชว์ในร้านเลย
“collection ที่เราส่งไปใน 1 ชุดมี 30 ชิ้น เราส่ง concept เรื่องการนำศิลปะไทยโบราณอย่างการถมทองมาประยุกต์ให้เข้ากับเครื่องประดับสมัยใหม่ไปประกวด แล้วพอทำออกมา ผลตอบรับดีมาก ดีจนตัวเองไม่เชื่อ คิดว่ามีไม่กี่คนที่คิดแบบเรา ที่ชอบลายไทย ชอบอะไรที่มีความเป็นไทยแบบนี้ ปรากฏว่าทำเท่าไหร่ก็ขายได้ ดีกว่าที่คิดเยอะเลย
จริงๆตอนแรกเราเรียนบริหารธุรกิจที่เอแบค แต่พอเรียนไปได้ 3 ปีก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรา มีอะไรที่เราสนใจมากกว่าการบริหารธุรกิจ เลยโอนหน่วยกิตไปเรียนที่ Southern Oregon University ที่อเมริกา แล้วเลือกเรียนสาขา Computer Information Science เพราะชอบด้านคอมพิวเตอร์ด้วย เป็นสาขาการเขียนโปรแกรมเพื่อรองรับธุรกิจ แต่วิชาด้านธุรกิจเราเรียนไปแล้วเลยไม่ต้องเรียนใหม่ เรียนแต่คอมพิวเตอร์ มีความสุขมาก พอจบปริญญาตรีก็ได้ทุนจากครูให้เป็นผู้ช่วยเขาด้าน Multimedia Design ซึ่งเป็นวิชา minor แต่เป็นวิชาที่เราชอบที่สุด ชอบมากๆ และเป็นจุดที่เริ่มค้นพบว่า เราก็มีหัวศิลป์มากพอที่จะเอามาทำอะไรที่น่าสนใจได้ หลังจากนั้นก็ไปโรงเรียน sculpture, painting งานศิลปะต่างๆ และสร้างสรรค์งานออกมาอีกมากมาย หลังจากที่ได้แรงบันดาลใจจากอาจารย์คนหนึ่งที่บอกเราว่า You’re an artist.”
พอเรียนจบปริญญาโทกลับมา ก็ไปฝึกงานที่บริษัท Workshop & Studio ของอาใหม่ ปิยะวงศ์ กรรณสูต ช่วงนั้นได้เรียนรู้เยอะมาก แต่พอฝึกไปได้ประมาณ 1 ปี ก็หันกลับมามองที่บ้าน คิดว่าถ้าเรากลับมาช่วยเขาอีกแรงน่าจะมีโอกาสพัฒนาสินค้าของเราได้ไกลยิ่งขึ้น เราได้เปรียบตรงที่เราไม่ได้เริ่มที่ 1 แต่เราเริ่มที่ 3 ที่ 4 หรือมากกว่านั้น ก็เลยตัดสินใจกลับมาทำ มะเร็งอัญมณีศาสตร์เพิ่มเติม หลังจากที่เคยเรียน Jewelry Design ที่สถาบัน GIA ที่อเมริกามาแล้ว
ส่วนความสนใจในศิลปะไทย เริ่มสมัยที่เรียนอยู่ที่อเมริกา ตอนนั้นเราได้ทุนเป็นทูตวัฒนธรรม ต้องเผยแพร่วัฒนธรรมไทย พอไปอยู่ที่โน่น เราจะเห็นคุณค่าของวัฒนธรรมของเรามากขึ้น รู้สึกว่าเราเหนือกว่าฝรั่งมา เสียงอเมริกาเป็นประเทศใหม่อายุเขาไม่กี่ร้อยปี ขณะที่เรามีประวัติศาสตร์มายาวนานมาก รู้สึกว่าศิลปะของเราเจ๋ง ประกอบกับการที่เราโตมากับของพวกนี้ คุณแม่ทำมา 20 ปีแล้ว ก็เลยได้สัมผัสมาตั้งแต่เด็ก และได้เห็นเทคนิคต่างๆทั้งแบบสมัยใหม่ แบบโบราณ ทั้งของไทย ของนานาชาติ อย่างการถมทองซึ่งเป็นศิลปะไทยโบราณที่มีประวัติยาวนานกว่า 500 ปี งานวิจิตรมากๆ เป็นลวดลายทั้งหมดซึ่งเกิดจากการสลักมือ แล้วเราหลงรักลายไทย คือถ้าดูเผินๆอาจจะน่าเบื่อ แต่ยิ่งดูก็จะยิ่งเห็นเสน่ห์เขา ยิ่งดูยิ่งตกหลุมรัก ยิ่งได้สัมผัส ยิ่งได้มีโอกาสศึกษาเพิ่มเติม ก็จะเห็นว่ามันเจ๋ง เราน่าจะเอามาประยุกต์ได้ ให้ความเป็นไทยอยู่ติดตัวกับชีวิตประจำวัน กับเสื้อผ้าในยุคสมัยนี้ได้ เราก็เลยมาออกแบบให้มันเท่ขึ้น ทันสมัยขึ้น เลยได้ ‘พราวลาย’ ขึ้นมา”
เราเชื่อได้ว่า พราวลาย บาย บี บิจูซ์ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของหนุ่มเจ้าของไอเดียล้านแปดคนนี้ ส่วนผลงานชิ้นอื่นๆ จะสร้างสรรค์ออกมาเป็นอย่างไรนั้น คงต้องติดตามกันต่อไป