งานฝีมือประสานคุณค่าทางจิตใจ
การตัดสินใจเลือกเป็นเจ้าของเครื่องประดับสักชิ้น โดยเฉพาะชิ้นที่มีราคา แน่นอนเราคงต้องเลือกจากความชื่นชอบ ความสวยงามที่โดนใจ วัตถุดิบที่สมน้ำสมเนื้อกับราคา แต่ถ้าเป็นงานชิ้นเดียวที่มีคุณเป็นเจ้าของแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น และยังเป็นงานที่วิจิตรบรรจง พิถีพิถันในการทำทุกขั้นตอน เครื่องประดับเป็นความภูมิใจของคนทำที่ต้องการให้คนนำไปใช้แล้วภูมิใจด้วยเพราะผสานคุณค่าทางจิตใจไว้ล้วนๆ เป็นสิ่งที่คุณอยากได้เติมเต็มแล้วล่ะก็ ต้องนึกถึงเครื่องประดับ Bee Bijoux อย่างแน่นอน
ความโดดเด่นของชิ้นงานที่เปรียบเสมือนงานศิลปะที่ล้ำค่านี้เป็นผลงานของ คุณสุวลักษณ์ มหันตคุณ ผู้คร่ำหวอดในวงการจิวเวลรี่มากว่า 30 ปี โดยเริ่มต้นจากความชื่นชอบส่วนตัวนำไปสู่การเรียนรู้ตามหลักวิชาอัญมณีศาสตร์ และสุดท้ายลงไหลศาสตร์นี้จนถึงกับเรียนวิชาการทำตัวเรือน “เราชอบแล้วก็อยากทำให้เป็นจริงเป็นจัง นั่นคือเราต้องรู้ให้หมดทุกขั้นตอน ตั้งแต่ขั้นตอนของการร่างแบบ ซึ่งเป็นการถ่ายทอดความคิดความครีเอทีฟให้ออกมาเป็นรูปประธรรมก่อน การเขียนแบบและอธิบายอย่างชัดเจนก่อนสู่กระบวนการผลิต ช่างฝีมือก็ทำออกมาได้ตรงตามแบบโดยไม่ผิดเพี้ยน โดยจะประกบติดกับช่างตลอดเวลาการขึ้นตัวเรือน งานแต่ละชิ้นแต่ละคอลเล็กชั่นจึงค่อนข้างใช้เวลามากเพราะเอาใจใส่ทุกขั้นตอนนี่แหละ”
คุณสุวลักษณ์พาเยี่ยมชมผลงานที่เรียงรายอวดโฉมส่องประกายต้องตา เห็นถึงความสวยงามอ่อนช้อย วัตถุดิบไม่ว่าจะเป็นมุก ปะการัง เพชร เทอร์คอยซ์ พลอยหลากสี หยก ฯลฯ เป็นวัตถุดิบที่นำมาสร้างสรรค์งานแต่ละชิ้น หลายชิ้นเธอใช้ฟอร์มเดิมของวัสดุที่มาตามธรรมชาติ ซึ่งไม่ได้ทำการดัดแปลงแก้ไขแต่ดีไซน์โดยใส่รายละเอียดอื่นๆเพิ่มเติมเพื่อให้โดดเด่นขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจ “คอนเซปท์หรือรูปแบบของจิวเวลรี่ของร้าน Bee Bijoux ของเรา จะดีไซน์แบบไม่วิ่งตามแฟชั่น จะเป็นเหมือนการสื่อสารที่ค่อนข้างจะส่วนตัวระหว่างคนทำกับคนสวมใส่ ทุกครั้งที่ออกแบบเราจะนึกถึงลูกค้า คือ ออกแบบค่อนข้างง่ายเพราะเรามีโจทย์อยู่แล้วว่าพลอยที่เราหามาเราอยากออกแบบให้ใคร อารมณ์ตอนนั้นเป็นอย่างไร อยากออกแบบมาในลักษณะไหน เวลาเราดีไซน์เราจะทำอย่างละชิ้นเท่านั้น เพราะว่ารูปทรงของพลอย รูปทรงของวัตถุดิบจะแตกต่างกัน อย่างคอลเล็กชั่นนี้ เราได้มุกธรรมชาติติดกัน 2 เม็ด ในจินตนาการของเรานี่คือนก ก็เลยเอามาทำเป็นนกตัวเมีย นกตัวผู้ อากัปกิริยาแตกต่างกัน ฉะนั้นเราจะทำชิ้นเดียว เครื่องประดับของเราเป็นงานศิลปะชิ้นเล็กๆที่สวมใส่ได้ รายละเอียดของงานแต่ละชิ้นมีความสำคัญมากทั้งความหนาความกว้างของเส้นสาย ลวดลาย ลักษณะการฝัง ลักษณะการจัดพลอย”
ทุกๆคอลเล็กชั่นล้วนแล้วแต่เป็นความภูมิใจของเธอ หนึ่งในนั้นคือคอลเล็กชั่น “Five-Fold Happiness” โดยใช้คอนเซปท์จากพรอันประเสริฐ 5 ประการมาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างผลงาน พร 5 ประการได้แก่ การมีโชคลาภวาสนา มีความเจริญรุ่งเรือง มีอายุมั่นขวัญยืน มั่งมีศรีสุข และอยู่เย็นเป็นสุข คอลเล็กชั่น “Five-Fold Happiness” หรือ “เบญจพร” เส้นสายและลวดลายของเครื่องประดับแต่ละชิ้นสะท้อนถึงสัญลักษณ์และแนวความเชื่อที่สัมพันธ์กับเบญจพรทั้ง 5 ประการนี้ ผลงานทุกชิ้นมีความหมายอันเป็นมงคล “คอลเล็กชั่นนี้อินสปายมาจากวัฒนธรรมผสมระหว่างจีนกับไทย ดิฉันมีเชื้อสายจีน เติบโตมากับวัฒนธรรม 2 อย่างพร้อมๆกันคือไทยและจีน ใน คอลเล็กชั่น Five-Fold Happiness คือความเชื่อของคนจีน 5 อย่าง อย่างปลาทองทำไมคนจีนชอบปลาทอง ทำไมดอกโบตั๋นถึงดี ทำไมคนจีนชอบเต่า งูมีความหมายอย่างไร ดิฉันทำเป็นหนังสือเล่มเล็กที่บอกเล่าถึงความเชื่อและความหมายของเครื่องประดับในคอลเลคชั่นนี้
ส่วนบางคอลเล็กชั่นดิฉันก็ได้รับอิทธิพลจากศิลปะของช่างทองไทยโบราณ เนื่องจากดิฉันเป็นอาจารย์พิเศษสอนการขึ้นตัวเรือนและการออกแบบเครื่องประดับสมัยใหม่ที่กาญจนาภิเษกวิทยาลัยช่างทองหลวง เป็นโรงเรียนของสมเด็จพระเทพฯ ตั้งอยู่ในบริเวณวังหลวง ที่นี่เขาจะสอนการขึ้นรูปและงานเทคนิคโบราณของไทยเป็นหลัก ดิฉันได้นำลวดลายและเทคนิคการทำทองแบบไทยโบราณ มาประสานเข้ากับรูปแบบแนวโมเดิร์น ทำให้เกิดเป็น คอลเล็กชั่นเครื่องประดับร่วมสมัยที่ดูแปลกตาและสามารถสวมใส่เข้ากับเสื้อผ้าสมัยใหม่ได้”
คุณสุวลักษณ์หยิบเข็มกลัดดอกไม้ส่งมาให้เราดูเห็นถึงความอ่อนหวานงามสง่า เธอบอกว่าเป็นคอลเล็กชั่นดอกไม้ ซึ่งตัวเธอเองเป็นคนชอบดอกไม้ชอบธรรมชาติอยู่แล้ว การออกแบบดอกไม้จึงเป็นงานที่ถ่ายทอดความเป็นตัวตนของเธอ “คอลเล็กชั่นนี้จะมีหลายชิ้นมากประมาณ 30-40 ชิ้น ซึ่งแต่ละชิ้นจะไม่ซ้ำแบบกันเลย แรงบันดาลใจมาจากดอกไม้ไทยๆ อย่างดอกสาละ ซึ่งเป็นต้นไม้ในพุทธประวัติซึ่งกล่าวว่าพระพุทธเจ้าได้ทรงประสูติใต้ต้นสาละนี่เอง ชิ้นนี้เป็นดอกกล้วยไม้ ดอกไม้ต่างประเทศก็มีอย่างเช่นนี้เป็นดอกไอริส รูปทรงของกลีบมุกพวกนี้เป็นมาตามธรรมชาติ เรามาจัดเรียงแต่ละกลีบให้เหมาะสม เราจะทำเป็นดอกอะไรเราก็จะต้องคัด เราจะไปกำหนดสีก็ไม่ได้จะไปดัดเขาก็ไม่ได้ เพราะฉะนั้นเอาสิ่งที่เขามีมาตามธรรมชาติมาทำให้เขาสวยที่สุดและดีที่สุด อยากอันนี้เป็นหนอนที่เป็นมุกเม็ดเดียวนะคะ ดิฉันเห็นว่าเหมือนหนอนมากเราก็ออกแบบมาเป็นหนอน บางคนถามว่าขอหลักในการเลือกลอยหน่อยได้ไหม ดิฉันว่าตอบยาก ความรู้สึกการมองพลอยของแต่ละคนไม่เหมือนกัน พลอยสองเม็ดถึงแม้จะเป็นแบบเดียวกัน คัตติ้งเหมือนกันแต่เสน่ห์ไม่เหมือน ความสวยไม่เหมือนกันเป็นของจากธรรมชาติ ทุกเม็ดมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หน้าที่ของดิฉันคือทำอย่างไรให้เขาสวยที่สุด”
งานแต่ละชิ้นเป็นงานฝีมือที่ผสานคุณค่าทางจิตใจซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์ตรงที่ผู้สวมใส่ภูมิใจได้ว่าเป็นชิ้นพิเศษ ที่ผ่านขั้นตอนอย่างพิถีพิถันให้ความแข็งแรง คงทน และที่สำคัญที่ซื้อหาไม่ได้คือคุณค่าทางจิตใจ “มีความสุขที่ได้ทำงานประเภทนี้ ถ้าทำงานอื่นคงทำได้ไม่ดีเพราะว่าไม่ชอบ งานแต่ละชิ้นเหมือนเรากำลังเลี้ยงเบบี้ให้โต ผ่านมือเราทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่คัดลอย การออกแบบเขียนแบบ การติดตามงานตั้งแต่ต้นจนจบเพื่อให้แน่ใจว่างานที่ออกมาตรงกับสิ่งที่เราต้องการที่อยู่ในอิมเมจิเนชั่นของเรา เพราะฉะนั้นงานหลักของดิฉันไม่ได้อยู่ที่หน้าร้าน แต่จะอยู่ที่โรงงาน อยู่ด้านโปรดักชั่น ซึ่งตอนนี้ก็มีลูกชายเริ่มเข้ามาช่วยบ้างในเรื่องของการทำให้ร้านทันสมัยขึ้นด้วยการทำมัลติมีเดีย การเก็บสต๊อกให้เป็นระบบขึ้นโดยใช้คอมพิวเตอร์ หลายๆอย่างเขาก็ทำเป็นระบบระเบียบขึ้นมา ช่วยได้เยอะค่ะ” ธุรกิจนี้เกิดขึ้นจากความรักล้วนๆ แม้แต่การแต่งกายของคุณสุวลักษณ์ก็ดูมีสไตล์ เรียบแต่เก๋ตรงเครื่องประดับที่เธอออกแบบเอง “สมัยก่อนเราทำงานจะแต่งสไตล์สาวนักธุรกิจเรียบๆ แต่มีเครื่องประดับที่ดูเก๋ๆ จะช่วยทำให้เสื้อผ้าไม่ดูน่าเบื่อ อย่างชุดเรียบเรียบ ถ้ามีเครื่องประดับด้วย ก็จะดูดีขึ้นมาทันทีเลย เครื่องประดับทำให้เราสนุกกับการแต่งตัว และที่สำคัญช่วยสะท้อนว่าคุณเป็นใคร รสนิยมคุณเป็นแบบไหนอีกด้วย”
เห็นจริงอย่างเธอกล่าวทุกประการ ผู้หญิงเราถ้าขาดเครื่องประดับก็เหมือนแต่งหน้าแล้วลืมทาปากอย่างไรอย่างนั้น ดูขาดๆอะไรไปหรือเรียบเกินไปดูไร้เสน่ห์ ข้อสำคัญอยู่ที่อย่าใส่มากไปจนเกินงาม ความงามอยู่ที่ความพอดี
–นิตยสาร Lexus Magazine
